ปศุสัตว์เขต 9


aniroot967

นายสัตวแพทย์ ดร. อนิรุธ  เนื่องเม็ก
ปศุสัตว์เขต ๙

ช่องทางการติดต่อ

เบอร์มือถือ :: 0800623035
เบอร์สำนักงาน :: 074-324406
E-mail :: rg09_sgk@dld.go.th
page :: https://www.facebook.com/DLDRegion9/ 

กิจกรรมของสำนักงานปศุสัตว์เขต 9

ข่าวสารประชาสัมพันธ์

ความรู้เผยแพร่ด้านปศุสัตว์

ไอคอนลิงค์

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

ฐานข้อมูลด้านปศุสัตว์ในพื้นที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 9

ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์


person2 

person1

 

กำลังออนไลน์

มี 24 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

สถิติผู้เข้าชม

663620
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
227
502
3724
653750
11037
30740
663620

Your IP: 18.191.70.200
2024-11-15 11:45

แบบสอบถาม

แบบสอบถาม >>
ความคิดเห็นของผู้รับบริการต่อการให้บริการของกรมปศุสัตว์
ประจำปีงบประมาณ 2567

แบบสอบถาม
ความคิดเห็น
ของผู้รับบริการ

qrcord1
แบบสอบถาม
ความต้องการของผู้รับบริการ
ใช้ข้อมูลด้านปศุสัตว์

qrcode2

 

            สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (Mammalians) เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีวิวัฒนาการสูงที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิต ลักษณะเด่นคือ มีต่อมน้ำนม สำหรับผลิตนมใช้เลี้ยงลูกในระยะแรกเกิด มีสมองขนาดใหญ่จึงมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าสัตว์กลุ่มอื่น ๆ เป็นสัตว์เลือดอุ่นสามารถ ปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมได้ดี และมีขนขึ้นที่ผิวหนังปกคลุมร่างกาย เพื่อช่วยในการรักษาอุณหภูมิให้ร่างกาย เพื่อช่วยในการรักษาอุณหภูมิให้ร่างกาย แต่บางชนิดเช่น ตัวลิ่นมีขนขึ้นใต้เกล็ดแข็งที่หุ้มตัว ต้นกำเนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เกิดใน ยุค triassic เมื่อประมาณ 215 ล้านปี ซึ่งมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลานที่เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด ซึ่งหลังจากที่ยุคไดโนเสาร์เริ่ม สูญพันธุ์เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว
               สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 4,000 กว่าชนิด 17 อันดับ ที่พบในเมืองไทยมี 14 อันดับ เป็นสัตว์ทะเล 2 อันดับ และสัตว์บก 12 อันดับ การจัดจำแนกอาศัยลักษณะของกระโหลก ฟัน เครื่องปกคลุมร่างกาย เขา เล็บ และกรงเล็บ มือและเท้า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พบส่วนใหญ่ในพื้นที่อุทยานฯ เป็นสัตว์ป่าจึงพบได้ไม่บ่อยนักยกเว้น ลิงแสม นาก พังพอน และกระรอก ที่พบทั่วไป ตามป่าชายเลนและป่าชายหาด ส่วนสัตว์ป่าที่พบเห็นในเวลากลางคืนมักเป็นสัตว์เล็ก เช่น ชะมด อีเห็น และนางอาย เป็นต้น
สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยในทะเล มี 2 อันดับ คือ กลุ่มของพะยูน order Sirenia ซึ่งมีอยู่เพียง 4 ชนิด และ กลุ่มของโลมา และ วาฬ order Cetacea มีอยู่ประมาณ 84 ชนิด สำหรับพะยูน ซึ่งอยู่ในสกุล Dugong มีเพียงชนิดเดียวคือ Dugong dugon มีการแพร่กระจายเฉพาะในเขตอินโด-แปซิฟิก จากออสเตรเลียถึงอินเดีย ส่วนอีก 3 ชนิดเป็นพวก manatees มีการแพร่ กระจายอยู่ในแอฟริกา ยุโรป และอเมริกา ไม่พบในประเทศไทย
              พะยูนเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ในประเทศไทยพบพะยูนฝูงใหญ่ประมาณ 50-60 ตัวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ส่วน บริเวณอื่น ๆ จะพบเพียง 2-3 ตัว เท่านั้น เนื่องจากหญ้าทะเลเป็นอาหารหลักเพียงชนิดเดียวของพะยูน ดังนั้นจะพบพะยูนได้ในเฉพาะ ที่มีแหล่งหญ้าทะเลขนาดใหญ่เท่านั้น สำหรับในบริเวณชายฝั่งสถานีวิจัยทรัพยากรชายฝั่งระนองได้พบพะยูนในแหล่งหญ้าทะเล ทุ่งนางดำ จังหวัดพังงาในปี พ.ศ. 2540 และ 2542 ในขณะทำการสำรวจแหล่งหญ้าทะเลในช่วงน้ำขึ้นสูงสุด และในเดือนพฤษภาคม 2542 มีรายงานจากชาวประมงพบพะยูน 2 ตัวว่ายใกล้เกาะหนุ่ยห่างจากสถานีฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร และจากสถิติการพบพะยูนใน พื้นที่จังหวัดระนองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา พบลูกพะยูน 1 ตัวว่ายน้ำบริเวณกระชังเลี้ยงปลาในเขตตำบลนาคา ในเดือน พฤศจิกายน 2538 พบพะยูนติดโพงพางตาย บริเวณหาดทรายดำ อำเภอเมือง ในเดือนมีนาคม 2539 พบพะยูนลอยตามบริเวณ หมู่เกาะดำ ซึ่งเป็นพะยูนเพศเมียมีขนาดยาวกว่า 2 เมตร จากการศึกษาอายุโดยคำนวณจากฟัน น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 37 ปี จาก ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าในพื้นที่ชายฝั่งระนองยังคงมีพะยูนอาศัยอยู่บ้างเนื่องจากยังคงมีแหล่งหญ้าทะเลตามเกาะและชายฝั่ง ในพื้นที่จังหวัดระนอง ดังนั้นจึงควรช่วยกันอนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารของพะยูนต่อไป 
              กลุ่มโลมาและวาฬในพื้นที่ชายฝั่งพบโลมาอย่างน้อย 3 ชนิด ได้แก่ โลมาปากขวด bottle-nose dolphin : Tursiops aduncus (Ehrenberg, 1832) โลมากระโดด spinner dolphin : Stenella longirostris (Gray, 1828) และโลมาหัวบาตรหลังเรียบ finless porpoise : Neophocaena phocaenoides (Cuvier, 1829) ว่ายน้ำหากิน อยู่ตาม ชายฝั่งและตามเกาะต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคม จะพบโลมามากจากการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโลมา ในพื้นที่สถานีฯ ในปี พ.ศ. 2538 พบโลมาหัวบาตร 1 ตัว ติดอวนตาย 1 ตัว และในปี พ.ศ. 2541 พบโลมากระโดด 1 ตัว ถูกคลื่นพัด เข้าเกยหาดทราย และตายภายหลังจากนำมาพักในสถานีฯ สำหรับวาฬที่พบบริเวณชายฝั่งระนอง เนื่องจากชายฝั่งค่อนข้างตื้นจึงพบ วาฬเข้ามาในบริเวณชายฝั่งไม่บ่อยนัก ยกเว้นในปี
พ.ศ. 2541 ช่วงเดือนเมษายน มีรายงานว่ามีวาฬเข้ามาอยู่ชายฝั่งประมาณ 2-3 วัน ในบริเวณเกาะกำและเกาะค้างคาวและในปี พ.ศ. 2542 ช่วงเดือนมิถุนายนชาวประมงพบวาฬว่ายอยู่ใกล้หมู่เกาะกำ